ค้นหาหนัง

La La Land | นครดารา

เรื่องย่อ : La La Land | นครดารา

LA LA LAND: เรื่องราวของ เซบาสเตียน (ไรอัน กอสลิ่ง) หนุ่มนักเปียโนแจ๊ซที่ได้มีโอกาสพบรักกับ มีอา (เอ็มมา สโตน) นักแสดงสาวดาวรุ่ง แต่แล้วพวกเขาทั้งคู่กลับพบว่า .. การตั้งใจในการทำงานเพื่อไล่ตามความฝันของแต่ละฝ่าย ดูจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความสัมพันธ์เริ่ม ระหองระแหง และต่างฝ่ายต่างประคับประคองความรักของทั้งคู่เพื่อให้ผ่านพ้นอุปสรรคให้จงได้!!!

IMDB : tt3783958

คะแนน : 10



La La Land สุดยอดหนังดีท็อบฟอร์มประจำปีนี้ กวาดทุกเสียงจากเทศกาลหนัง รวมถึงเข้าชิงลูกโลกทองคำ และยังเป็นเต็งหนึ่งออสการ์อีกด้วย La La Land ถูกกำกับโดย Damien Chazelle เจ้าของหนังดนตรี Jazz สุดระห่ำอย่าง Whiplash 

     ณ ตอนนี้ แกก็ได้เปลี่ยนแนวมาทำหนัง Musical อย่าง La La Land ซึ่งก็สามารถเรียกได้ว่า 'La La Land' เป็นผลงานระดับขึ้นหิ้งของวงการภาพยนตร์เลย

  La La Land เล่าถึงความรักของ มีอา (Emma Stone) และ เซบาสเตียน (Ryan Gosling) กับความฝันอันยิ่งใหญ่ในมหานครลอสแอนเจลิส มีอา เป็นเด็กขายกาแฟในคาเฟ่แห่งหนึ่งและมีความฝันอยากจะเป็นดารา ส่วนเซบาสเตียน หนุ่มช่างฝันที่เชื่อในวิถีแห่งแจ๊สและอยากจะเป็นเจ้าของคาเฟ่แจ๊สแห่งหนึ่งในมหานครแห่งนี้ ทั้งคู่ได้เดินทางตามฝันแต่ในโลกของความเป็นจริงกลับไม่เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้

La La Land หนังย้อนยุคที่ฉายในปี 2016

La La Land คือ หนึ่งในหนังที่เยี่ยมที่สุดในปีนี้ นำภาพกลิ่นอายของภาพยนตร์ฮอลลีวูดช่วงราวยุค 50-60 มาคืนชีพในสไตล์ Romantic & Musical สำหรับเนื้อเรื่องของ La La Land ต้องขอบอกว่าไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นเนื้อเรื่องที่เราเคยเห็นทั่วๆ ไปกันอยู่แล้ว แต่จุดที่สร้างความโดดเด่นคือ บทหนังที่ทำได้น่าติดตาม พร้อมกับการทำหนังเลียนแบบ Musical ย้อนยุค (แต่ช่วงเวลาในเรื่องจริงๆ คือยุคปัจจุบัน) เรียกได้ว่า Art มากเลยทีเดียว

     นอกจากนี้การกำกับก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำได้เยี่ยม เพราะวิสัยทัศน์ของเรื่อง แนวการดำเนินเรื่องทั้งในส่วนเนื้อเรื่องจริงกับส่วน Musical สามารถผสมผสานได้อย่างลงตัว อารมณ์ บทสนทนา ท่าเต้น จังหวะหนัง จังหวะเพลง องค์ประกอบเหล่านี้กลมกลืนกันอย่างสวยงาม จุดนี้ขอยกเครดิตให้ผู้กำกับที่สามารถคุมองค์ประกอบได้อย่างยอดเยี่ยม
 

La La Land และความเป็นศิลปะในทุกอณู

ในส่วนงาน Production การกำกับฉากและแสงสีก็อยู่ในระดับห้าดาว มีการให้แสงสีต่างๆ แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงอารมณ์ รวมถึงย้อมโทนสีให้คล้ายกับเหมือนเราย้อนกลับไปดูหนังฮอลลีวูดเก่าๆ อีกครั้ง (ถ้าเทียบกับหนังไทยสมัยใหม่ ก็โทนสีคล้ายเรื่อง 'ฟ้าทะลายโจร' แต่ไม่ฉูดฉาดเท่า) นอกจากนี้ ยังมีการใช้ Long Take มาประกอบในหนังอยู่บ่อยครั้ง ทำให้หนังมีมุมกล้องที่แปลกใหม่ เต็มไปด้วยเทคนิคอันแพรวพราวกระจายทั่วทั้งเรื่อง

    ส่วนภายในเรื่องเราจะพบฉากโทนย้อนยุคที่มีองค์ประกอบศิลป์งดงาม เช่น เสื้อผ้า การแต่งตัว การเต้นแบบ Musical (Contemporary Dance & Tap Dance) สไตล์ฮอลลีวูดย้อนยุค ดนตรีแจ๊ส เรียกได้ว่าเป็นหนังที่ทำได้ประณีตและ Tribute หนังฮอลลีวูดยุคเก่าได้อย่างน่าประทับใจ